สติปัฏฐาน 4

วิดีโอธรรมะ

ทางสายเอกสู่ความบริสุทธิ์

สติปัฏฐาน ๔ - ทางสายเอกสู่ความบริสุทธิ์
เรียนรู้หลักการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 อันเป็นหนทางสายเอกที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เพื่อชำระกิเลส ลดละความทุกข์ และนำไปสู่ความบริสุทธิ์ทางจิตใจ

สติปัฏฐาน 4 วิดีโอธรรมะ ทางสู่ความบริสุทธิ์

สติปัฏฐาน 4

18 พฤษภาคม 2568

ความหมายของสติปัฏฐาน 4

สติปัฏฐาน 4 เป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในมหาสติปัฏฐานสูตร เป็นวิธีการเจริญสติที่สำคัญและเป็นรากฐานของการปฏิบัติธรรม สติปัฏฐาน แปลว่า การตั้งสติมั่น หรือ การดำรงสติให้มั่นคงอยู่กับอารมณ์ปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามฐานที่ตั้งของสติ ดังนี้

1. กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน

การพิจารณากาย

คือ การตั้งสติระลึกรู้กายและอาการของกาย ให้เห็นความจริงของกายว่าเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา มีวิธีปฏิบัติหลายแบบ เช่น

  • อานาปานสติ - การระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก สังเกตลมหายใจยาว-สั้น หยาบ-ละเอียด
  • อิริยาบถ - การรู้สึกตัวในอิริยาบถทั้ง 4 คือ เดิน ยืน นั่ง นอน
  • สัมปชัญญะ - การระลึกรู้ชัดในการกระทำทุกอย่าง เช่น การเหลียวซ้าย-ขวา การก้มกาย การยกแขน
  • ปฏิกูลมนสิการ - การพิจารณาส่วนประกอบของร่างกาย 32 ส่วน ให้เห็นความน่าเกลียด ไม่สะอาด
  • ธาตุมนสิการ - การพิจารณาธาตุ 4 ในร่างกาย คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม
  • นวสีวถิกา - การพิจารณาศพ 9 ขั้น เพื่อเห็นความไม่เที่ยงของร่างกาย
2. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน

การพิจารณาความรู้สึก

คือ การตั้งสติระลึกรู้เวทนา (ความรู้สึก) ที่เกิดขึ้น โดยแบ่งเวทนาออกเป็น 3 ประเภท

  • สุขเวทนา - ความรู้สึกสุข เช่น ความสบาย ความชื่นใจ ความพอใจ
  • ทุกขเวทนา - ความรู้สึกทุกข์ เช่น ความเจ็บปวด ความร้อน ความหนาว
  • อทุกขมสุขเวทนา - ความรู้สึกเฉยๆ ไม่สุขไม่ทุกข์

เมื่อเวทนาใดๆ เกิดขึ้น ให้รู้ว่า "เวทนานี้เกิดขึ้น" "เวทนานี้เปลี่ยนแปลง" "เวทนานี้ดับไป" โดยไม่ติดยึด ไม่มีความชอบหรือชัง ให้เห็นว่าเวทนาทั้งหมดล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา

3. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน

การพิจารณาจิต

คือ การตั้งสติระลึกรู้สภาวะของจิต ว่าจิตกำลังเป็นอย่างไร โดยไม่ไปแทรกแซงหรือควบคุม แต่รู้ตามความเป็นจริง เช่น

  • จิตมีราก (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) หรือไม่มีราก
  • จิตหดหู่ หรือฟุ้งซ่าน
  • จิตมีความคิดสูง หรือมีความคิดต่ำ
  • จิตตั้งมั่น หรือไม่ตั้งมั่น
  • จิตเป็นอิสระ หรือไม่เป็นอิสระ
  • จิตมีกิเลสครอบงำ หรือปราศจากกิเลส

การปฏิบัติข้อนี้จะทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของจิต เห็นความไม่เที่ยงของสภาวจิต และไม่ยึดติดในสภาวะใดๆ ของจิต

4. ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

การพิจารณาธรรม

คือ การตั้งสติระลึกรู้ธรรม หรือสภาพธรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจิต ซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดธรรมดังนี้

  • นิวรณ์ 5 - อุปสรรคของจิต ได้แก่ กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ วิจิกิจฉา
  • ขันธ์ 5 - รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของสัตว์
  • อายตนะ 12 - ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์
  • โพชฌงค์ 7 - ธรรมที่นำไปสู่การตรัสรู้ ได้แก่ สติ ธรรมวิจยะ วิริยะ ปีติ ปสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา
  • อริยสัจ 4 - ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

การพิจารณาธรรมจะช่วยให้เห็นกระบวนการเกิด-ดับของธรรม และเข้าใจกฎแห่งเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์และความหลุดพ้น

ประโยชน์ของการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4

  1. ทำให้จิตใจสงบ มีสมาธิ มีสติในปัจจุบันขณะ
  2. เห็นความจริงของกายและจิต ตามหลักไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา)
  3. ลดความยึดมั่นถือมั่นในกายและจิต
  4. พัฒนาปัญญาให้เกิดขึ้น จนเห็นทางสายกลางและหนทางสู่การหลุดพ้น
  5. ดับกิเลสตัณหา ความโลภ ความโกรธ ความหลง
  6. นำไปสู่นิพพาน คือ ความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง

หลักการปฏิบัติสติปัฏฐาน

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า การปฏิบัติสติปัฏฐานควรดำเนินตามหลักการ 3 ประการ คือ

1. อาตาปี - ปรารภความเพียร มีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติ

2. สัมปชาโน - มีสัมปชัญญะ รู้สึกตัวอยู่เสมอในการกระทำทุกอย่าง

3. สติมา - มีสติ ระลึกรู้ตัวอยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่ลืมตัว ไม่หลงไปกับกิเลส

คำแนะนำในการปฏิบัติ

  • เริ่มต้นจากอารมณ์ที่ง่าย เช่น การสังเกตลมหายใจ เพื่อฝึกสมาธิให้มั่นคงก่อน
  • ปฏิบัติสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยวันละ 20-30 นาที
  • รักษาสติให้ต่อเนื่อง ทั้งในท่านั่งสมาธิและในชีวิตประจำวัน
  • อย่าหวังผลเร็วเกินไป ให้ปฏิบัติไปอย่างสม่ำเสมอด้วยความอดทน
  • ศึกษาธรรมควบคู่ไปกับการปฏิบัติ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
  • ปรึกษาครูบาอาจารย์ที่มีประสบการณ์เมื่อมีข้อสงสัย

"ผู้ใดปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 อย่างสม่ำเสมอ ผู้นั้นจะบรรลุธรรมได้ภายใน 7 ปี หรือภายใน 7 วัน"

- มหาสติปัฏฐานสูตร

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม และมีความสุขในการปฏิบัติธรรม