สติปัฏฐาน ๔ - ทางสายเอกสู่ความบริสุทธิ์
เรียนรู้หลักการปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 อันเป็นหนทางสายเอกที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เพื่อชำระกิเลส ลดละความทุกข์ และนำไปสู่ความบริสุทธิ์ทางจิตใจ
สติปัฏฐาน 4 เป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในมหาสติปัฏฐานสูตร เป็นวิธีการเจริญสติที่สำคัญและเป็นรากฐานของการปฏิบัติธรรม สติปัฏฐาน แปลว่า การตั้งสติมั่น หรือ การดำรงสติให้มั่นคงอยู่กับอารมณ์ปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามฐานที่ตั้งของสติ ดังนี้
การพิจารณากาย
คือ การตั้งสติระลึกรู้กายและอาการของกาย ให้เห็นความจริงของกายว่าเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา มีวิธีปฏิบัติหลายแบบ เช่น
การพิจารณาความรู้สึก
คือ การตั้งสติระลึกรู้เวทนา (ความรู้สึก) ที่เกิดขึ้น โดยแบ่งเวทนาออกเป็น 3 ประเภท
เมื่อเวทนาใดๆ เกิดขึ้น ให้รู้ว่า "เวทนานี้เกิดขึ้น" "เวทนานี้เปลี่ยนแปลง" "เวทนานี้ดับไป" โดยไม่ติดยึด ไม่มีความชอบหรือชัง ให้เห็นว่าเวทนาทั้งหมดล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
การพิจารณาจิต
คือ การตั้งสติระลึกรู้สภาวะของจิต ว่าจิตกำลังเป็นอย่างไร โดยไม่ไปแทรกแซงหรือควบคุม แต่รู้ตามความเป็นจริง เช่น
การปฏิบัติข้อนี้จะทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของจิต เห็นความไม่เที่ยงของสภาวจิต และไม่ยึดติดในสภาวะใดๆ ของจิต
การพิจารณาธรรม
คือ การตั้งสติระลึกรู้ธรรม หรือสภาพธรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจิต ซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดธรรมดังนี้
การพิจารณาธรรมจะช่วยให้เห็นกระบวนการเกิด-ดับของธรรม และเข้าใจกฎแห่งเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์และความหลุดพ้น
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า การปฏิบัติสติปัฏฐานควรดำเนินตามหลักการ 3 ประการ คือ
1. อาตาปี - ปรารภความเพียร มีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติ
2. สัมปชาโน - มีสัมปชัญญะ รู้สึกตัวอยู่เสมอในการกระทำทุกอย่าง
3. สติมา - มีสติ ระลึกรู้ตัวอยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่ลืมตัว ไม่หลงไปกับกิเลส
"ผู้ใดปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 อย่างสม่ำเสมอ ผู้นั้นจะบรรลุธรรมได้ภายใน 7 ปี หรือภายใน 7 วัน"
- มหาสติปัฏฐานสูตรขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม และมีความสุขในการปฏิบัติธรรม